Johnnie Walker ราคาแต่ละสี พร้อมแนะนำวิธีเลือกให้ตรงสไตล์นักดื่ม

Johnnie Walker คือหนึ่งในแบรนด์วิสกี้ชื่อดังจากสกอตแลนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั่วโลก ด้วยประวัติยาวนานกว่า 200 ปี และเอกลักษณ์การเบลนด์รสชาติที่หลากหลาย Johnnie Walker ไม่ได้มีเพียงแค่รุ่นเดียว แต่แบ่งเป็นหลายสี ซึ่งแต่ละสีบ่งบอกถึงระดับความเข้มข้น อายุของวิสกี้ และบุคลิกที่แตกต่างกันออกไป

ในบทความนี้ เราจะพาคุณมารู้จักแต่ละรุ่น พร้อม “Johnnie Walker ราคา” เพื่อให้คุณสามารถเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น ทั้งสำหรับการดื่มเองหรือมอบเป็นของขวัญ โดยเนื้อหานี้อยู่ในหมวด [แนะนำการเลือกซื้อ] ที่เหมาะกับนักดื่มทุกระดับ

Red Label: รุ่นเริ่มต้นสำหรับสายดื่มผสมที่อยากได้ความคุ้มค่า

Johnnie Walker Red Label เป็นรุ่นที่เข้าถึงง่ายและเหมาะกับการผสมกับโซดาหรือน้ำมะนาวมากกว่าการดื่มเพียว ให้รสเผ็ดร้อน สดชื่น และมีกลิ่นสโมคอ่อน ๆ เหมาะสำหรับนักดื่มมือใหม่ หรือผู้ที่ชอบดื่มสไตล์ค็อกเทล

ราคา: เริ่มต้นที่ประมาณ 700 – 1,000 บาท/ขวด

ด้วยราคาที่เป็นมิตรและรสชาติที่เบลนด์มาให้ดื่มง่าย Red Label จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในงานสังสรรค์ และยังเหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นสำรวจโลกของ Johnnie Walker อีกด้วย

Black Label: ความคลาสสิกกลมกล่อม ดื่มเพียวก็ได้ ผสมก็ดี

Black Label ขึ้นชื่อว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่าในระดับกลาง ให้รสสัมผัสที่นุ่ม ลึก และสมดุล มีการใช้วิสกี้ที่มีอายุเฉลี่ย 12 ปี ทำให้รสชาติซับซ้อนมากกว่ารุ่น Red อย่างชัดเจน

ราคา: ประมาณ 1,300 – 1,800 บาท

เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มอินกับรสชาติของวิสกี้ และต้องการสัมผัสที่ลงตัวระหว่างกลิ่นสโมค ความหวาน และรสผลไม้เบา ๆ สามารถดื่มเพียวหรือ on the rocks ได้โดยไม่ต้องปรุงแต่ง

Double Black: รสเข้มสไตล์สายควัน สำหรับผู้ที่ชอบรสจัดจ้าน

Double Black ถูกพัฒนามาจาก Black Label แต่มีความเข้มข้นของควันและไม้โอ๊คมากขึ้น ให้รสที่หนักแน่นและกลิ่นที่เด่นชัด เหมาะกับสายวิสกี้ที่ต้องการความดิบเถื่อนและลึกซึ้งมากขึ้น

ราคา: ประมาณ 1,500 – 2,000 บาท

นักดื่มที่ชอบรสชาติเข้ม ๆ จะชื่นชอบรุ่นนี้เป็นพิเศษ โดยเฉพาะหากคุณเคยลอง Black แล้วรู้สึกว่า “ยังไม่ถึงใจ” Double Black คือคำตอบที่ชัดเจน

Green Label: เบลนด์เฉพาะมอลต์สำหรับผู้ที่จริงจังเรื่องรสชาติ

Green Label เป็นรุ่นที่พิเศษตรงที่ใช้เฉพาะ Single Malt จาก 4 แหล่งชั้นนำของสกอตแลนด์ในการเบลนด์ ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม ลึก และมีมิติของกลิ่นมากกว่ารุ่นเบลนด์ทั่วไป

ราคา: ประมาณ 2,000 – 2,800 บาท

เหมาะสำหรับนักดื่มที่อยากสัมผัสความละเมียดละไมของมอลต์แท้แบบไม่ต้องไปถึง Single Malt ขวดละหลายพัน Green Label ให้ความซับซ้อนที่คุ้มค่ากับราคา

Gold Label Reserve: หรูหรานุ่มละมุน สำหรับโอกาสพิเศษ

Gold Label ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับงานเฉลิมฉลองหรือของขวัญสำคัญ ด้วยรสสัมผัสที่นุ่ม หอมหวานคาราเมล และกลิ่นผลไม้อบอุ่น

ราคา: ประมาณ 2,500 – 3,500 บาท

เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบความหรูหรา หรือมองหาวิสกี้ที่ดื่มง่ายแบบพรีเมียม ทั้งรสชาติและภาพลักษณ์ตอบโจทย์สาย gifting ได้อย่างลงตัว

Blue Label: สุดยอดแห่งการเบลนด์สำหรับนักสะสมและของขวัญระดับพรีเมียม

Blue Label คือรุ่นเรือธงของ Johnnie Walker ที่ใช้วิสกี้หายากอายุมากเบลนด์เข้าด้วยกันอย่างปราณีต ให้รสชาติที่นุ่ม ลึก และซับซ้อนจนยากจะหาใครเทียบ

ราคา: เริ่มต้นประมาณ 6,000 – 10,000 บาทขึ้นไป

เหมาะสำหรับนักดื่มระดับจริงจังหรือผู้ที่ต้องการของขวัญหรูหรามีระดับ สื่อถึงความใส่ใจในรายละเอียดและรสนิยมของผู้มอบ

Johnnie Walker ราคาและความแตกต่างของแต่ละสี: เลือกยังไงให้ตรงสไตล์

เมื่อพิจารณาทั้งรสชาติ กลิ่น และงบประมาณ จะเห็นว่าแต่ละสีของ Johnnie Walker ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มนักดื่มที่ต่างกันอย่างชัดเจน

• Red Label เหมาะกับมือใหม่หรือสายดื่มผสม
• Black/Double Black ตอบโจทย์คนที่เริ่มจริงจังและชอบรสจัด
• Green สำหรับคนที่ชอบความซับซ้อนของมอลต์
• Gold สำหรับโอกาสพิเศษ หรือคนที่ชอบความละมุน
• Blue สำหรับนักสะสมหรือของขวัญระดับหรู

การเลือกซื้อ Johnnie Walker จึงไม่ใช่แค่เรื่องของราคา แต่คือการเลือกรสชาติที่ตรงใจและโอกาสที่คุณต้องการมอบประสบการณ์ดี ๆ ให้ตัวเองหรือคนสำคัญ